ตู่เปิดประเทศเศรฐกิจล่วงหรือรุ่ง?

ตู่เปิดประเทศเศรฐกิจล่วงหรือรุ่ง?

ตู่เปิดประเทศเศรฐกิจล่วงหรือรุ่ง?
ตู่ เปิดประเทศ 1 พ.ย. เศรฐกิจล่วงหรือรุ่ง?

ตู่เปิดประเทศเศรฐกิจล่วงหรือรุ่ง? เป็นที่ฮือฮาไปไม่ใช่น้อย ด้วยความหวังที่การประกาศผ่านทางสื่อดทรทัศน์ของนายกรัฐมนตรี เรื่องการเปิดประเทศ 1 พ.ย. 64 ที่จะถึงนี้ ได้มีการอธิบายรายละเอียดถึงการเตรียมพร้อมของไทยในการเปิดประเทศ แต่ก็กลายเป็นประเด็นว่าเราพร้อมหรือไม่ แถลงการณ์ครั้งนี้มีขึ้น เพียง 3 วัน ก่อนหน้าวันครบกำหนดเปิดเทศให้ได้ภายใน 120 วัน โดยเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ตอนนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาแถลงการณ์ ว่าการเดินหน้าตามแผนฉีดวัคซีน สามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้โดยเฉลี่ยประมาณเดือนละกว่า 10 ล้านโดส และประมาณต้นเดือนตุลาคมก็จะมีประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อยเข็มแรกแล้ว จำนวน 50 ล้านคน จึงตั้งเป้า เปิดประเทศทั้งประเทศให้ได้ภายใน 120 วัน ซึ่งถ้านับจากวันที่16 มิถุนายน ก็จะครบกำหนด 120 วัน ในวันศุกร์ที่ 15 ต.ค.นี้ นั่นเอง

รายละเอียด ตู่เปิดประเทศเศรฐกิจล่วงหรือรุ่ง?

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564

  • เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยได้ โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน
  • ต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบทั้ง 2 โดสแล้ว
  • เดินทางเข้ามาในประเทศไทยโดยทางอากาศ หรือก็คือเครื่องบิน
  • มาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำทั้งหมด 10 ประเทศ แต่เมื่อคืนนายกตู่เราเอ่ยชื่อมาเพียง 5 ประเทศ คือ อังกฤษ สิงคโปร์ เยอรมนี จีน และอเมริกา
  • ผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR (ที่มีความน่าเชื่อถือตามที่กระทรวงสาธารณสุขและต่างประเทศเชื่อถือ )ออกจากประเทศเป็น Negative หรือ ผลเป็นลบเท่านั้น
  • เมื่อเข้ามาในประเทศต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR อีกครั้งเมื่อมาถึงประเทศไทย เพื่อยืนยันผลอีกครั้งเป็นการดับเบิ้ลเช็ค

วันที่ 1 ธันวาคม 2564

  • ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนการประเทศที่อนุญาตให้เข้ามาให้มากขึ้น
  • เปิดสถานบันเทิง และอนุญาตให้นั่งดื่มเครื่องดื่มหรือรับประทานภายในร้านอาหารได้ประเทศให้มากขึ้น

วันที่ 1 มกราคม 2564

  • เพิ่มจำนวนประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำให้มากขึ้นอีกเพื่อเพิ่มนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศ

แน่นอนว่าความเสี่ยงก็มีมามากพอสมควรหลายฝ่ายต่างกังวลเรื่องในการเปิดประเทศ เพราะการฉีดวัคซีนของประเทศไทยยังไม่ถึง 70% แต่เราก็ต้องเปิดเพื่อแลกกับเม็ดเงินที่จะหลั่งไหลเข้ามาเพราะ ธุรกิจการท่องเที่ยวไทยนั่น ถือ 15%ของจีดีพี ประเทศ

นอกจากนี้ปัญหาเศรษฐกิจตอนนี้ เกิดจากผลกระทบจากต่างประเทศ ทำให้นโยบายของไทยติดขัด หรือกรณีธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีการชะลอวงเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์ภายใต้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE อย่างแน่นอน เพราะกังวลอัตราเงินเฟ้อ

แม้เฟดไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย แต่ดอกเบี้ยในตลาดจะถูกกดดันทำให้ปรับขึ้นเอง จะสร้างแรงกดดันให้กับไทย หากไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยตาม และมติของกบง.จะคงดอกเบี้ยหรือไม่ จึงไม่มีผล เพราะทำอะไรไม่ได้ จนกลายเป็นว่าไทยจะทำอย่างไรต่อไป เพราะเงินเฟ้อแพงขึ้นอยู่แล้ว และขณะนี้ราคาน้ำมันขยับขึ้นไปแล้ว 40% ทำให้ต้นทุนการเปิดประเทศเพิ่มขึ้น รวมถึงต้นทุนการผลิตแพงขึ้นตาม กลายเป็นความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ

ตู่เปิดประเทศเศรฐกิจล่วงหรือรุ่ง?

“เหมือนว่าการเปิดประเทศ ไม่ได้เป็นทางเลือกให้กับเรา จึงไม่ต่างกันระหว่างการเปิดหรือไม่เปิดประเทศ เพราะปัญหาของไทยอยู่ที่เราไม่มีข้อมูลว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวต้องการอะไร จึงไม่รู้ว่าไทยเปิดประเทศไปแล้วจะมีนัยอะไร หากไม่ฉีดวัคซีนให้กระจายไปทั่ว และไม่แน่ใจว่าคนติดเชื้อจะลดลงเมื่อใด ยังคงมีคนติดเชื้อวันละ 9 พันถึงหมื่นติดต่อกัน หากลากอีกอาทิตย์จะเป็นอย่างไร คิดว่าคนข้างนอกคงไม่กล้ามาเที่ยว แต่ยังดีกว่าไม่ทำอะไร” คำกล่าวบางส่วนของ ผศ.ดร. สันติ ชัยศรีสวัสดิ์สุข

ฝากทรูวอลเล็ตขั้นต่ำ 1 บาท

สมัคร Askmebetx