คริปโตเคอร์เรนซี อยากลงทุนแต่ไม่มีความรู้ต้องทำอย่าง

คริปโตเคอร์เรนซี อยากลงทุนแต่ไม่มีความรู้ต้องทำอย่างไร?

คริปโตเคอร์เรนซี อยากลงทุนแต่ไม่มีความรู้ต้องทำอย่างไร?

คริปโตเคอร์เรนซี อยากลงทุนแต่ไม่มีความรู้ต้องทำอย่างไร? คือ สินทรัพย์ดิจิทัลประเภทหนึ่งที่มีการเข้ารหัส มีราคากลางในการซื้อขายแปรผันตามกลไกตลาด จึงสามารถทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนมูลค่าผ่านอินเทอร์เน็ตได้ แต่เพราะไม่ได้มีลักษณะทางกายภาพเหมือนเช่นสกุลเงินทั่วไป (Fiat Currency) ของแต่ละประเทศที่มีการตีพิมพ์ธนบัตรหรือเหรียญกษาปณ์ออกมา ทำให้บางครั้ง เราก็เรียก สกุลเงินดิจิทัล ว่า “สกุลเงินเสมือน” หรือ Virtual currency  

รู้จัก 15 เหรียญ คริปโตเคอร์เรนซี อยากลงทุนแต่ไม่มีความรู้ต้องทำอย่างไร?

  • Bitcoin (BTC)
  • Ethereum (ETH)
  • Binance Coin (BNB)
  • Solana (SOL)
  • Terra (LUNA)
  • Uniswap (UNI)
  • MakerDAO (MKR)
  • Firo (FIRO)
  • Monero (XMR)
  • Polkadot (DOT)
  • Algorand (ALGO)
  • FTX Token (FTT)
  • Avalanche (AVAX)
  • Alpha Finance (ALPHA)
  • Sushiswap (SUSHI)

7 เรื่อง ก่อนซื้อ Bitcoin

1.Bitcoin เป็นคริปโตเคอร์เรนซีสกุลแรกของโลก

บิตคอยน์ (Bitcoin) คือคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) “สกุลแรกของโลก” และมีมูลค่าสูงที่สุดในตลาดคริปโต ณ ปัจจุบัน สามารถใช้แลกเปลี่ยนสินค้าและบริการได้โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง หมายความว่า แม้จะอยู่ประเทศไหนบนโลกก็สามารถทำธุรกรรมทางการเงินข้ามประเทศได้ เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต และที่สำคัญค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมนั้นถือว่าถูกมาก หากเทียบกับการทำธุรกรรมผ่านตัวกลาง

2.ใช้บล็อกเชนในการทำงาน

บิตคอยน์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ในการบันทึกธุรกรรม โดยบล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีในการเก็บข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยมากที่สุด มีหลักการทำงานแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) ที่สำเนาของข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในเครือข่าย และระบบจะมีการตรวจสอบให้ข้อมูลทุกเครื่องตรงกันอยู่เสมอ จึงยากต่อการปลอมแปลงข้อมูล และสามารถตรวจสอบได้อย่างโปร่งใส

3.ไม่มีใครทราบตัวตนผู้สร้าง Bitcoin

บิตคอยน์ถือกำเนิดขึ้นในปี 2009 โดยผู้สร้างที่ใช้นามแฝงว่า “ซาโตชิ นากาโมโต (Satoshi Nakamoto)” จุดประสงค์ของเขาคือต้องการสร้างสกุลเงินที่เป็นอิสระ ไม่ขึ้นตรงต่อรัฐบาลหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง

4.บิตคอยน์มีจำกัดเพียง 21 ล้านเหรียญ

บิตคอยน์ถูกสร้างขึ้นมาให้มีจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญ เพราะว่าผู้สร้างบิตคอยน์ได้คาดการณ์ไว้แล้วว่า หากบิตคอยน์มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่มีจำกัด อาจทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ และจะทำให้มูลค่าของบิตคอยน์ลดลงจนหายไปจากตลาดได้ ดังนั้นการจำกัดจำนวนเหรียญบิตคอยน์จึงเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลมเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในอนาคต และด้วยคุณสมบัติที่มีอยู่อย่างจำกัดของบิตคอยน์นี้เองจะทำให้มูลค่าของบิตคอยน์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคตนั่นเอง

5.เป็นต้นแบบให้คริปโตสกุลอื่น ๆ

บิตคอยน์ถือเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จและเป็นคริปโตที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่สนใจและยอมรับให้เงินดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น และต้องยอมรับว่าความสำเร็จของบิตคอยน์ได้เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดเหรียญดิจิทัลสกุลอื่น ๆ ตามมามากมายหลายพันสกุลทั่วโลก ที่เรียกกันว่า  “Altcoin” (Alternative Coin) หรือเป็นสกุลเงินทางเลือกที่มีขึ้นมาสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงในเหรียญสกุลอื่นนอกจากบิตคอยน์

6.ทุก 4 ปีจะมีเหตุการณ์สำคัญ

“Bitcoin Halving” เป็นกฎเกณฑ์ที่ผู้สร้างบิตคอยน์ “ซาโตชิ นากาโมโต” ได้กำหนดขึ้นมา โดยทุก ๆ 210,000 บล็อกที่สร้างขึ้น จะเกิดการ Halving ซึ่งก็คือการลดจำนวน “Block Reward” ที่เป็นเงินรางวัลของนักขุดลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งค่าตอบแทนนี้ก็คือเหรียญบิตคอยน์ที่เกิดขึ้นมาใหม่นั่นเอง

โดยประมาณแล้ว นักขุดจะใช้เวลา 10 นาทีต่อการสร้าง 1 บล็อก หมายความว่า 210,000 บล็อก จะถูกสร้างขึ้นภายใน 2,100,000 นาที หรือคิดเป็นประมาณ 4 ปีที่จะเกิดปรากฏการณ์ Bitcoin Halving ขึ้น หากนับตั้งแต่ปี 2009 ที่บิตคอยน์เกิดขึ้นมา จนถึงปัจจุบัน ก็ได้เกิดปรากฏการณ์ Bitcoin Halving ทั้งหมด 3 ครั้งด้วยกัน แต่ละครั้ง Block Reward ก็จะลดลงครึ่งหนึ่ง จากเดิมที่ 50 BTC/Block ลดลงเหลือเพียง 6.25 BTC/Block ในปัจจุบันเท่านั้น

7.เป็นคริปโตที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดเป็นอันดับที่ 1

บิตคอยน์เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีส่วนแบ่งในตลาดสูงสุด เรียกได้ว่าเป็นเจ้าแห่งวงการคริปโตเลยก็ว่าได้ สาเหตุที่บิตคอยน์ได้ฉายาเช่นนั้น เพราะปัจจุบันส่วนแบ่งทางการตลาดของบิตคอยน์ (อ้างอิงจากเว็บไซต์ coinmarketcap.com) มีส่วนแบ่งสูงถึง 46.69%  แม้จะลดลงจากเดิมเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับสัดส่วนในตลาดแล้วถือว่าบิตคอยน์ยังครองตลาดเป็นอันดับที่ 1 และทิ้งห่างเหรียญสกุลอื่นอย่างไม่เห็นฝุ่น และด้วยเหตุนี้เองทำให้บิตคอยน์นั้นถูกมองเป็นกระจกที่สะท้อนภาพรวมของตลาดคริปโตทั้งหมด เมื่อราคาบิตคอยน์มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ย่อมส่งผลต่อ Altcoin ในตลาดเกือบทั้งหมด แต่ไม่ได้หมายความว่า Altcoin จะผันแปรตาม Bitcoin เสมอไป อาจมีหลายสิ่งที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม เช่นการไหลของเงิน (Fund Flow) เทคโนโลยี กระแสข่าว หรือกระแสโซเชียล เป็นต้น จึงต้องศึกษาข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติมก่อนการลงทุน

ฝากทรูวอลเล็ตขั้นต่ำ 1 บาท

สมัคร Askmebetx